ตอนนั้นได้มีโอกาส ไปกราบหลวงปู่ ครูบาอาจารย์สายทางอีสาน ซึ่งก็เป็นวัดปฏิบัติที่มีชื่อเสียงวัดหนึ่ง หลังจากกราบนมัสการ ตามธรรมเนียมแล้ว ก็เลยถือโอกาสพักที่วัดนั้ั้นสักระยะ
ที่จริงหลวงปู่ ซึ่งเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พระลูกพระหลาน ได้อบรมกรรมฐานจากท่าน ได้แนวทางปฏิบัติ ขัดเกลากิเลส บัดนี้หลวงปู่อายุ 90 กว่าแล้ว สังขารท่านก็ไม่ค่อยอำนวยต่อคณะศิษย์ ที่จะบอกกล่าวเรื่องราวในแนวทางการปฏิบัติเท่าใดนัก
ท่านจำต้องนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง รถเข็นโดยคณะแพทย์ ประจำองค์ท่านอนุญาต ให้มาัพักที่วัดได้ เพราะฉะนั้นจึงมีพระเณรในวัด ซึ่งอยู่จำพรรษาช่วยอุปฐากดูแลหลวงปู่เป็นประจำโดยจัดเวรยามพลัดกันตลอด 24 ชั่วโมง คือไม่ให้ขาดจากท่านเลยจะว่าอย่างนั้นก็ได้
อาตมาเห็นว่านี้เป็นโอกาสอันดี ที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิด ก็เลยขอโอกาสพระอาจารย์ ที่ท่านเป็นผู้ดูแลอาวาสนั้นอยู่ ซึ่งท่านก็ไม่ขัดศรัทธาให้เข้าไปบีบนวดหลวงปู่ และ จัดเวรตามกติกาแล้วก็ได้ช่วงเวลา ตี 1-3 ก็ทำทุกอย่างนะ หลวงปู่พอที่จะพูดได้อยู่วันนั้นท่านไม่หลับง่ายๆ นะอาตมาก็บีบนวดหลังท่านเพราะหลวงปู่ใช้ เราทำด้วยความศรัทธาด้วยความเคารพท่านมาก
ก็นึกว่าเรามีบุญอยู่ที่มีโอกาสแบบนี้ ตอนก่อนหมดเวลา ก็จะมีพระมาเปลี่ยนเวรต่ออาตมาก็นั่งลง ก้มกราบหลวงปู่ ขอไปพักผ่อน ก่อนออกจากห้องไปก็นั่งพักสักครู่ พระรูปนั้นท่านมาแล้วก็เข้าไปนวดหลังต่อ
อาตมามองดูแล้วคิดในใจว่า การบีบนวดหลังนั้น เราคงทำได้ดีกว่าชำนาญกว่าแน่ๆ เพราะบีบนวดครูบาอาจารย์มาก็เยอะ คงสู้เราไม่ได้ พอความคิดเราจบลงปุ๊บได้เสียงหลวงปู่ท่านพูดสวนมาแบบเย็นๆ ด้วยความเมตตาว่า " มันดีกันคนละอย่างฮึๆ " อาตมาขนลุกซู่รีบกราบท่านแล้วคลานออกไป