เอกลักษณ์ไทย ต้องไม่เป็นทาสกิเลส
หลวงพ่อพุทธทาส ได้ให้ความหมายของเอกลักษณ์ไทยไว้อย่าง น่าฟังว่า...
"เอกลักษณ์ไทย ไม่ใช่เรือนทรงไทย แต่หม้อน้ำที่ตั้งอยู่หน้าบ้านแบบถาวร มีไว้ตลอดเวลา,โต๊ะและม้านั่งสำหรับตักบาตรที่ตั้งอยู่หน้าบ้านเป็นการถาวร นั่นแหละเอกลักษณ์ไทย บรรพบุรุษของเราได้กระทำมาอย่างต่อเนื่อง ถึงวันพระวันทำบุญ หอบข้าวของ หาบไป เต็มหนัก พาลูกหลานเข้าวัดฟังธรรม มันไม่ใช่ทำบุญทำทานถวายพระเพียงจุดประสงค์อย่างเดียว มันกล่อมเกลาพัฒนาจิตใจ เต็มไปด้วยเมตตา เต็มไปด้วยมนุษยธรรม คุณธรรม โดยยึดหลักที่ว่า สัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น"
ประเทศไทยเป็นประเทศพุทธบริษัท หมายถึง พุทธะ = ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ผู้รู้ คือ รู้สิ่งที่ควรรู้ รู้จักตนเอง รู้จักโลกรู้จักธรรม รู้เท่าทันโลกและชีวิต
ผู้ตื่น คือ ตื่นจากความโง่งมงาย ความหลอกลวงที่โลกครอบงำ
ผู้เบิกบาน คือ ความสดใส ชื่นบาน เข้มแข็ง ไม่หดหู่ เหี่ยวแห้ง ท้อแท้
เอกลักษณ์ไทย จะต้องตั้งรากฐานอยู่บนความเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ที่ตรงตามพระพุทธประสงค์
คำว่า "ไทย" แปลว่า อิสระ คือ อิสระจากกิเลส (ความเศร้า-หมอง ขุ่นมัว ไม่บริสุทธิ์ ความชั่วที่แฝง อยู่ในความรู้สึกนึกคิด ปรุงแต่งความคิดนำไปสู่ปัญหาความยุ่งยากและความทุกข์)
ถ้าคนไทยตกเป็นทาสของกิเลส เราจะไม่เหลือเอกลักษณ์ไทย อยู่แต่ประการใด จงศึกษาและพัฒนา เข้าถึงธรรม 3 ระดับหรือ 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. "ขั้นกาม" ความสุขทางวัตถุ บำรุงบำเรอประสาทสัมผัสทาง ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย ควบคุมโดย "ศีล" แล้วพัฒนาสูงขึ้นไป
2. "ขั้นจิต" เป็นการพัฒนาฝึกจิตใจให้ตั้งมั่น สงบ เข้าถึงได้ด้วย "สมาธิ" เราสามารถพัฒนาสูงขึ้นไปอีก
3. "ขั้นปรมัตถ์"หรือ "โลกุตตระ" เป็นการพัฒนาระดับชีวิตจิตใจ เหนือโลกียธรรม เผชิญและแก้ปัญหาได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ เข้าถึงได้ ด้วย "ปัญญา"
ระดับที่ 3 หรือขั้นที่ 3 ขั้นปรมัตถ์หรือโลกุตตระ คือเป้าหมายสูงสุดของชีวิตที่ถูกต้องดีงาม ที่เราต้องการ เป็นความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน
แบ่งปันโดย ดนย์ อารยะ