ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
 

 

รวมลิ้งค์ เว็บไซต์ธรรมะ ที่น่าสนใจ
  THAIWARE Dharma | รายละเอียด บทความ บทสวด บทคาถา ธรรมะ
เลือกขนาดตัวอักษร ขนาดตัวอักษร :  ก   ก   ก   ก 

รู้จักโรค + รู้จักวิธีสวด = หายป่วย

 

    Share  
 

 

การจะสวดโพชฌังคปริตร (โพด ชัง คะ ปะ ริด. โพชฌังค องค์แห่งการตรัสรู้ + ปริตร ต้านทาน ป้องกัน) ให้เกิดเป็นพุทธฤทธิ์รักษาโรค ควรทำความเข้าใจก่อนว่า โรคคืออะไร? และการสวดมนต์ ช่วยให้หายจากโรคได้อย่างไร?

คำว่า โรค แปลว่า ความเจ็บไข้ หรือ ความเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งหนึ่งที่กล่าวได้ว่าเป็นสมบัติติดตัวมนุษย์ตั้งแต่เกิด ดังมีหลักธรรมบทหนึ่งชื่อว่า อภิณหปัจจเวกขณะ (อะ พิณ หะ ปัด จะ เวก ขะ หนะ) แปลว่าธรรมที่ทรงแนะนำให้พิจารณาอยู่เป็นประจำ ในบทนี้มีข้อหนึ่งพูดถึงเรื่องความเจ็บป่วยว่า

พยาธิธมโมมหิ พยาธิ อนตีโต (พระยา ทิ ทัม โมม หิ พะยา ทิง อะ นะ ตี โต ((พะยา ออกเสียงสระอะ ตรงคำว่า พะ เร็วๆ ออกครึ่งเสียง ตามหลักไวยากรณ์บาลี เรียกว่าการออกเสียง กึ่งมาตรา))) แปลว่า เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้ ฉะนั้น จงอย่าตกใจกลัวโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นเลย

คนไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียบเบียนจึงเป็นผู้มีโชควาสนาอย่างที่สุด ดังพระพุทธดำรัสที่ตรัสไว้ในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบทว่า อาโรคปรมา ลาภา (อะ โร คะยะ ปะ ระ มา ลาพา) แปลว่า ความไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง

โรค เมื่อแยกประเภทแล้วมีอยู่ ๒ ชนิด ได้แก่

1. โรคทางกาย คือ ความเจ็บป่วยต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกกายเรา

2. โรคทางใจ คือ อาการที่จิตใจเกิดความแปรปรวนไปตามอำนาจกิเลส

ดังมีหลักฐานในคัมภีร์พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต โรคสูตรว่า "คนที่ไม่มีโรคทางกายตั้งแต่มีอายุ ๑ ปีจนถึงเกิน ๑๐๐ ปี ยังพอหาได้ แต่คนที่ไม่มีโรคทางใจแม้เพียงครู่เดียวหาได้ยาก เว้นแต่ท่านผู้หมดกิเลส คือพระอรหันต์"

โรคทางกาย อาจเกิดขึ้นได้ด้วยสมมติฐาน ๘ ประการ ดังหลักฐานในคัมภีร์พระสุตตันตปิฏก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค สิวกสูตร (สุด ตัน ตะ ปิ ดก สัง ยุด ตะ นิ กาย สะ ลา ยะ ตะ นะ วัก สิ วะ กะ สูด) ว่า " อาพาธ คือ ความเจ็บป่วยบางอย่างอาจมีสาเหตุมาจาก ๑.มีดีเป็นเหตุ ๒.มีเสมหะเป็นเหตุ ๓.มีลมเป็นเหตุ ๔.มีทั้งดี ลม และเสมหะเป็นเหตุ ๕.ฤดูกาลเปลี่ยน ๖.รักษาสุขภาพไม่สม่ำเสมอ ๗.ถูกทำร้าย ๘.ผลกรรม"

การเจ็บป่วยที่เกิดจากสมมติฐาน ๗ ประการแรก อาจป้องกันและรักษาให้หายได้ด้วยยา แต่ที่มีสาเหตุจากกรรมเก่าตามสมมติฐานสุดท้ายไม่อาจป้องกันหรือรักษาได้ด้วยยาอย่างเดียว ต้องอาศัยการรักษาทางใจด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ และการทำสมาธิภาวนา (สมาธิ ภาวนา สมาธิ แปลว่า ความตั้งมั่นแห่งจิต ภาวนา แปลว่า การเจริญ การอบรม รวมความแล้วจึงหมายถึง การเจริญหรืออบรมจิตให้มีความมั่งคงหนักแน่น) เข้าช่วยอีกทางหนึ่ง

โรคทางใจ มีสมมติฐานที่เกิดจากกิเลส คือ ความโลภ โกรธ หลง เมื่อกิเลส ๓ ตัวนี้เกิดขึ้นให้ผู้นั้นมีความตริตรึกนึกคิดไปในทางชั่วทั้งสิ้น ภาษาพระเรียกว่า อกุศลวิตก เช่น มีความโลภเกิดขึ้นก็นึกคิดอยากได้มาเป็นของตน มีความโกรธเกิดขึ้นก็นึกคิดจองล้างจองผลาญมีความหลงเกิดขึ้น ก็นึกคิดไปในทางเบียดเบียนผู้อื่น เป็นต้น
เนื่องจากกายกับใจมีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น ความเจ็บป่วยด้านหนึ่งอาจส่งผลถึงอีกด้านหนึ่งได้ เช่น คนเจ็บป่วยทางกายถ้าใจตก หรือใจเสีย ที่ป่วยน้อยก็ป่วยมาก ที่ป่วยมากก็ทรุดหนักลงไปอีก หรือโรคทางใจบางอย่างที่ส่งผลให้เกิดโรคทางกายได้โดยตรง เช่นมีความวิตกกังวล หรือความเครียดมากๆ ก็ทำให้ปวดหัว หน้ามืดตาลาย หรือเป็นโรคกระเพาะได้

มีเรื่องแปลกแต่จริง คนป่วยส่วนใหญ่ ยอมกินยาตามแพทย์สั่ง และคนป่วยส่วนใหญ่อีกเช่นกัน ไม่ยอมสวดมนต์อย่างศรัทธาแรงกล้า แม้ผู้ป่วยจะรู้ว่าการสวดมนต์และทำสมาธิภาวนาเป็นการรักษาบำรุงใจให้แข็งแรง แต่ก็อาจรู้แบบผิวเผิน ครั้งเมื่อได้เพลิดเพลินกับหนังสือเล่มที่ถืออยู่นี้ คงทำให้ผู้ป่วยเกิดศรัธาแรงกล้า ปรารถนา และลงมือปฏิบัติสวดมนต์อย่างจริงจัง ไม่หาข้ออ้างผัดวันประกันพรุ่ง

การเป็นผู้ป่วยที่น่ารัก ทำตามคำชี้แนะของหมอยา คือ หมอที่รักษาทางสรีระร่างกาย และทำตามคำชีแนะของหมอญาน คือ หมอผู้ให้ความรู้ในการรักษาใจ ผู้ป่วยจักได้รางวัลคือหายป่วย หรือแม้ยังไม่หายขาด แต่ก็ไม่เบื่อหน่าย ในความทรมาน กลับได้รับความสงบกายสงบใจ ใจนิ่งได้ กายนิ่งดี แม้ต้องวายชีวีเพราะป่วยหนักด้วยเวรกรรมเกินเยียวยาก็ยังได้ตายแบบไปดี มีสติในการจากลา ถือว่าชนะในศึกชิงภพ ไปสู่สุคติภพได้ง่ายจริง

ขอให้ทุกท่านหายเจ็บ หายไข้ หายป่วย หายทุกข์ หายหลงในความยึดมั่นในสรรพสิ่งว่าเป็น "ของกู" (โปรดพิจารณาดูเถิดว่า คนเราไม่สิ้นกิเลสเพราะยึดมั่นกับวัตถุ ความรู้สึก อารมณ์ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ชีวิตเรา ชีวิตเขา เอามาถือว่าเป็นของของตน ให้ตนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของไม่มากก็น้อย จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ร่ำไป)




THAIWARE Dharma | นำข้อมูลบทความออก !  นำข้อมูลออกพิมพ์ !

THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออก โดยการพิมพ์ (Print Article by Printable View)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ MS.Word (Export Article to MS.Word)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ ไฟล์เอกสาร PDF (Export Article to PDF Format Document)
 

THAIWARE Dharma | กลับสู่หน้าแรก ไทยแวร์ธรรมะ
 

 

 

 

  THAIWARE Dharma | ส่งความคิดเห็นจากทางบ้าน !
หัวข้อ เนื้อหา ข้อตกลง
  ความคิดเห็น* :

หมายเหตุ : กรอกรายละเอียดของบทความเข้าไป (ไม่รับ HTML Code) สามารถกด Enter ขึ้นบรรทัดใหม่ได้
  ห้ามโพสข้อความ !

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือส่งผลต่อ ความมั่นคงของประเทศ

  ที่ส่อไปทางลามก อนาจาร หรือผิดศีลธรรม

  ที่ถือเป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ ผิดกฎหมาย

  ที่เป็นความผิด เกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ผิดต่อ พรบ. ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๑
  ชื่อ / อีเมล์* :

หมายเหตุ : "นาย สมชาย รักธรรม" หรือ "somchai.r@gmail.com"
  รหัสยืนยัน* :

 
ฉันยอมรับข้อตกลงที่กล่าวมา ภายในหน้านี้ ทั้งหมด