คาถาแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์ มงคลคาถาที่ใช้สวดเพื่อป้องกันภัยและเอาชนะอุปัทวันตราย
๑. พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุเม* ชะยะมังะลานิ
แปล : พระจอมมุณีได้ทรงชนะมารผู้นิรมิต แขนมากตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่คชสารชื่อครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องกึกก้องด้วยธรรมวิธี คือ ทรงระลึกถึงพระบารมี ๑๐ ประการ ที่ทรงบำเพ็ญแล้ว มีทานบารมี เป็นต้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก้ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
แม่พระธรณีบีบน้ำที่พระพุทธองค์กรวดลงพื้นสู่ดินทุกครั้งที่บำเพ็ญบารมีมาแต่ปางก่อน น้ำจากมวยผมหลั่งไหลออกมาไม่จบสิ้นเหล่าพญามารถูกกระแสน้ำพัด พ่ายแพ้ไปหมดสิ้น
๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
แปล : พระจอมมุนีได้ทรงชนะอาฬวกยักษ์ผู้มีจิตกระด้าง ดุร้ายเหี้ยมโหด มีฤทธิ์ยิ่งกว่าพญามารผู้เข้ามาต่อสู้ยิ่งนัก จนตลอดรุ่ง ด้วยวิธีที่ทรงฝึกฝนอันเป็นอันดี คือขันติบารมี (ความอดทน อดกลั้น) ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
อาฬวกยักษ์ อสูรร้ายที่ไล่ฆ่ากัดกินผู้คนเป็นอาหาร เป็นที่น่าหวาดกลัว ยังต้องสยบพ่ายแพ้ต่อพระพุทธเจ้า
๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคิจักกะมะสะนีวะ สุทรุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
แปล : พระจอมมุนีได้ทรงชนะมารพญาช้างชื่อนาฬาคิรี เป็นช้างเมามันยิ่งนัก ดุร้ายประดุจไฟป่าและร้ายแรงดังจักราวุธ และสายฟ้า (ขององค์อินทร์) ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำ คือพระเมตตา ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
พระเทวทัต ปล่อยช้างที่กำลังตกมันชื่อ นาฬาคิรี ให้วิ่งตรงมาทำร้ายทิ่มแทงพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ทรงแผ่เมตตาจนช้างนาฬาคีรีกลับเปลี่ยนท่าทีที่ดุร้าย กลับกลายเป็นแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์
๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
แปล : พระจอมมุนี ได้ทรงบันดาลอิทธิฤทธิ์ทางใจอันยอดเยี่ยม ชนะโจรชื่อองคุลีมาล (ผู้มีพวงมาลัย คือนิ้วมือมนุษย์) แสนร้ายกาจมีฝีมือ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ไปสิ้นทาง ๓ โยชน์ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
จอมโจรองคุลีมาล ที่เหี้ยมโหดน่าเกรงขาม ประหารผู้คนมากมาย เพื่อตัดนิ้วให้ครบพัน แต่ก็ไม่สามารถติดตามได้ทัน พระพุทธองค์จึงตรัสเทศนาสั่งสอนองคุลีมาลสำนึกบาป ตามเสด็จออกบวชจนได้บรรลุพระอรหันต์ในที่สุด
๕. กัตตาะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
จิญจายะ ทุฏฐะวะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
แปล : พระจอมมุนีได้ทรงชนะคำกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา ผู้ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์ เพราะทำไม้มีสัณฐานกลมผูกติดไว้ ให้เป็นดุจมีท้อง ด้วยวิธีสมาธิอันงาม คือความสงบระงับพระหฤทัยในท่ามกลางหมู่ชน ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
นางจิญจมาณวิกา รับจ้างเหล่านักบวชเดียรถีย์ ทำไม้มากลึกผูกติดซ่อนไว้กับท้องและกล่าวร้ายว่ามีครรภ์กับพระพุทธเจ้า แต่ไม่สำเร็จจึงวิ่งหนีออกไปนอกวัด พระเวฬุวัน ทันทีที่ก้าวพ้นวัด ธรณีก็แยกสูบนางลงไปยังขุมนรก ด้วยผลแห่งกรรมนั้น
๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
แปล : พระจอมมุนีทรงรุ่งเรืองแล้วด้วยประทีบ คือ ปัญญา ได้ชนะสัจจกนิครนถ์ (นักบวชประเภทหนึ่ง ในสมัยพุทธกาล) ผู้มีอัชฌาสัยในที่จะสละเสีย ซึ่งความสัตย์ มุ่งยกถ้อยคำของตน ให้สูงล้ำดุจยกธงเป็นผู้มืดมนยิ่งนัก ด้วยเทศนาญาณวิธี คือรู้อัชฌาสัยแล้ว ตรัสเทศนาให้มองเห็นความจริง ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
เหล่าเดียรถีย์นักบวชผู้หลอกลวง ท้าประลองฤทธิ์กับพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดง ยมกปาฏิหาริย์ ลอยไปประทับยังยอดต้นมะม่วง ทรงปล่อยน้ำอุทกหลั่งไหล และเปล่งเปลวไฟออกจากพระวรกาย ซึ่งมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะทำได้ เหล่าเดียรถีย์ได้เห็นประจักษ์พากันเลื่อมใสขอบวชเป็นสาวก
๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
แปล : พระจอมมุนีได้ทรงโปรดให้พระโมคคัลลานะเถระ พุทธชิโนรสนิรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพญานาคราช ชื่อนันโทปนันทะผู้มีความหลงผิดมีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีให้ฤทธิ์ที่เหนือกว่าแก่พระเถระขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
นั้นโทปนันทนาคราช หลงผิดคิดว่าตนมีฤทธิ์มากกว่าพระพุทธเจ้า เนรมิตกายเป็นใหญ่โตพันเขาพระสุเมรุ แผ่พังพานบดบังแสงอาทิตย์ ปิดหนทางเสด็จจนมืดมิด พระองค์จึงทรงให้พระโมคคัลลานะ แปลงกายเป็นนาคราชใหญ่กว่าหลายพันเท่ากระหวัดรัดทรมานนันโทปนันทะ จนยอมพ่ายแพ้ในที่สุด
๘. ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคหะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง ** วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
แปล : พระจอมมุนีได้ทรงชนะพรหม ผู้มีนามว่า พกาพรหม ผู้มีฤทธิ์สำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีความเห็นผิดประดุจถูกงูรัดมือไว้อย่างแน่นแฟ้นแล้ว ด้วยวิธีวางยาอันพิเศษคือ เทศนาญาณ ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
แม้แต่พกาพรหม ผู้ที่ถือตนว่าบริสุทธิ์กว่าผู้ใดในสามโลก ยังต้องยอมลดตนลงมาเมื่อเทียบกับความมีศีล บริสุทธิ์ของพระพุทธองค์
เอตาปิพุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย
วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะ เนกะวิวิธานี จุปัททะวานิ
โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
แปล : นรชนใด มีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพระพุทธชัยมงคล ๘ บทนี้ทุกๆวัน นรชนนั้นจะพึงละเสียได้ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งหลาย มีประการต่างๆ เป็นอเนก และถึงซึ่งวิโมกข์ (ความหลุดพ้น) อันเป็นบรมสุขแล
* ถ้าสวดให้คนอื่นให้เปลี่ยนจากคำว่าเม เป็น เต
** อ่านว่าพรัมมัง
หมายเลขไอพี : 37.139.53.xxx
โพสเมื่อ : December 27, 2022 เวลา 17:58:38