สาเหตุทั่วไปของการเกิดโรคท้องผูก ได้แก่
๑. ร่างกายขาดน้ำ
ดื่มน้ำน้อย หรือบางทีแม้ดื่มน้ำมาก แต่เนื่องจากร่างกายไม่สามารถเก็บน้ำไว้ได้ ก็ทำให้ขาดน้ำ สาเหตุที่เก็บน้ำไม่ได้ ก็เพราะเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย กล้ามเนื้อจึงไม่ฟูทำให้เก็บน้ำไว้ไม่ได้ หรือมิฉะนั้นการดื่มน้ำเย็นจัด เช่นน้ำใส่น้ำแข็งก็ทำให้ร่างกายไม่เก็บน้ำ หรือการอยู่หน้าเตาไฟ หน้าตู้อบนานๆ ความร้อนจากเตาไฟ จากตู้อบดึงน้ำในตัวออกไป แต่เจ้าตัวยังดื่มน้ำในปริมาณเท่าเดิม ผลที่ตามมาก็คือ มีอาการท้องผูก
๒. ไม่ชอบรับประทาน พืชผักผลไม้
ชอบกินแต่อาหารประเภทเนื้อ หรือพวกอาหารที่มีกากน้อย แต่ไม่กินผักผลไม้ที่มีกากมาก ใครที่เคยล้างท่อหรือล้างขวดจะเข้าใจได้ดีว่า ถ้าจะให้ท่อหรือขวดเกลี้ยง เขาต้องใช้แปรงขัดด้ามยาวๆ ล้วนเข้าไปขัดในท่อหรือในขวด แต่ลำไส้ของเรายาวกว่าขวด แล้วจะใช้แปรงอะไรสอดเข้าไปล้างลำไส้ ก็ใช้เส้นใยจากพืชผักผลไม้ที่กินเข้าไป เพื่อไปทำหน้าที่ครูดเอาของเสียออกจากผนังลำไส้ พืชผักผลไม้จึงเป็นเสมือนแปรงล้างลำไส้ของคนเรานั้นเอง
๓. อั้นอุจจาระนานๆ
การอั้นอุจจาระไว้นานๆ เป็นผลให้น้ำที่มีอยู่ในอุจจาระถูกลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับเข้าไปในเส้นเลือด หลังจากน้ำถูกดูดซึมออกจากอุจจาระ อุจจาระก็จะแข็ง ท้องจึงผูก เพราะฉะนั้นอย่าถ่ายอุจจาระผิดเวลาโดยใช้เหตุ ถึงเวลาเมื่อไรไม่ว่าจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ช่าง ขอเวลาไปถ่ายก่อนเรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน
๔. ไม่ชอบออกกำลังกาย
โดยเฉาพออย่างยิ่ง ถ้านอนเฉยๆ หรือนั่งเฉยๆ เป็นเวลานานๆ จะเป็นเหตุให้ลำไส้ไม่ค่อยบีบตัว อุจจาระก็ค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ติดต่อกันหลายวันจึงเกิดอาการท้องผูกขึ้น หากทิ้งไว้นานๆ ท้องจะเสียตามมา เพราะอุจจาระที่ตกค้างเน่า
คนท้องผูกอย่างหนักจะแก้ไขได้อย่างไร
วิธีแก้ไขอาการท้องผูกอย่างหนักอาจทำได้ ๓ วิธีดังนี้
วิธีที่ ๑ : วิธีแบบโบราณ
เป็นวิธีง่ายๆ ตามแบบโบราณ กล่าวคือ เมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า แล้วก็ชงน้ำชา ใส่ใบชาลงไปนิดหน่อยเพียงแค่มีกลิ่นนั่งดื่มน้ำชาอ่อนๆ อุ่นๆ ถึงแม้จะดื่มน้ำชาหมดไปกาสองกา ถ้ายังไม่ปวดอุจจาระก็ยังไม่เลิกดื่ม ดื่มน้ำชาไปก็ออกกายบริหารไปเบาๆไป ไม่เร่งไม่ร้อน เดี๋ยวก็ปวดอุจจาระจนได้ เมื่อปวดแล้วก็ให้รีบไปขับถ่ายเสีย ถ้าหากวันแรกยังไม่ถ่ายก็อย่าเพิ่งท้อ ทำติดต่อกันไม่เกิน ๓ วัน ก็ถ่ายจนได้และกลายเป็นนิสัยถ่ายแต่เช้าโดยอัตโนมัติ
วิธีที่ ๒ การใช้ยาระบาย
การใช้ยาระบายควรอยู่ในรูปอาหาร เช่น มะขามเปียก (มะขามเปรี้ยวดีกว่ามะขามหวาน) ยอดชุมเห็ดเทศเป็นต้น ยาระบายที่อยู่ในรูปอาหารจะมีคุณค่ามากกว่ายาถ่ายจากร้านขายยา เพราะการใช้ยาถ่ายจากร้านขายยานานๆ ไปจะทำให้ติดยาถ่าย ถ้าไม่กินก็ไม่ถ่าย
วิธีที่ ๓ การสร้าง กล้ามเนื้อหูรูด ที่ทวารหนัก
วิธีนี้ทำได้โดยการออกกำลังที่ปากทวารหนัก กล่าวคือ ถ้ามีอาการท้องผูก เมื่อถึงคราวปวดอุจจาระแต่อุจจาระแข็งมากจนแบ่งถ่ายไม่ออก ก็ให้แบ่งไม่แรงนักแล้วก็ขมิบ เบ่งนิดเดียวแล้วก็ขมิบ (ไม่ใช่เบ่งหน้าเขียวหน้าเหลือง) ถ้ายังไม่ออกก็ใช้หัวฉีดน้ำล้างก้น ฉีดน้ำไปที่ปากทวารหนัก เพื่อให้น้ำเข้าไปช่วยหล่อลื่น ทำสลับกับการเบ่ง แล้วขมิบจนกว่าจะถ่ายออก การเบ่งพรวดเดียวไม่ได้ช่วยให้ลำไส้ได้มีโอกาสออกกำลัง แต่การเบ่งแล้วขมิบเป็นการใช้กำลังทวารหนักมาช่วยลำไส้ และในที่สุดกล้ามเนื้อหูรูดที่ปากทวารหนักก็จะมีกำลังตามมาด้วย ถ้าทำอย่างนี้ ไม่นานอาการท้องผูกจะคลายลง เพราะทั้งลำไส้ใหญ่และกล้ามเนื้อโดยรอบทวารหนัก มีกำลังพอที่จะขับอุจจาระด้วยตนเองได้
ริดสีดวงทวารหนัก
ผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง จะเป็นเหตุให้โรคริดสีดวงทวารหนักเกิดตามมาได้ง่าย เพราะฉะนั้นผู้ที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี จะไม่ยอมให้ท้องผูกเป็นอันขาดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดริดสีดวงทวารหนักได้ แต่ทว่าเมื่อมีอาการริดสีดวงทวารหนักเกิดขึ้น มีวิธีดูแลรักษาด้วยตนเองดังนี้
วิธีที่ ๑. ถ้าใครมีอาการอักเสบที่บริเวณทวารหนัก เช่น ปากทวารหนักบวมเป่งบ่อยๆ ทั้งปวดและเจ็บจนแทบก้าวขาไม่ออก วิธีแก้ไขขั้นต้นอย่างง่ายๆ ซึ่งจะช่วยให้ทุเลาลงได้ภายในไม่กี่นาที คือ เอามะกรูดแก่ๆ ผลหนึ่งมาอังไฟ อาจจะใช้โคมไฟดูหนังสือก็ได้ โคมไฟที่มีความร้อนขนาด ๘๐ วัตต์กำลังดี (ถ้าไม่มี ๘๐ วัตต์ จะใช้ ๑๐๐ วัตต์ก็ได้ หรืออย่างน้อยต้อง ๖๐วัตต์) อังพออุ่นๆ แล้วลองใช้หลังมือแตะดู เมื่อรู้สึกว่าอุ่นพอทนได้ ก็ใช้มะกรูดอุ่นๆ นั้นนาบที่บริเวณทวารหนัก พอลูกมะกรูดเย็นลงก็เอามาอังไฟใหม่ แล้วก็ไปนาบอีก ทำสลับกันไปเช่นนี้ประมาณ ๑๐ นาที เราจะรู้สึกด้วยตัวเองเลยว่าส่วนที่บวมอักเสบจะยุบอย่างน้อย ๒๐ ถึง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ และอาจมากถึง ๖๐ เปอร์เซ็นต์
บริเวณผิวที่นาบด้วยลูกมะกรูดนั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนอาจจะรู้สึกแสบต้องใช้ครีมทาช่วยลดการระคายเคือง อาจจะเป็นครีมทาหน้า หรือครีมทาตัวก็ได้ แล้วก็นอนหลับสักตื่น ตื่นขึ้นมาจะพบว่าอาการบวมยุบหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า ๖๐ ถึง ๗๐ เปอร์เซ็นต์
สำหรับผู้ที่เพิ่งเป็นครั้งแรกๆ อาการบวมอักเสบอาจจะเหี่ยวหายไปเลยแต่สำหรับผู้ที่เป็นมาเรื้อรัง จะไม่หายหมด เพียงแค่ทุเลาเท่านั้น แต่ในกรณีที่ยังมีเลือดไหลไม่หยุด ก็ต้องไปหาหมอที่มีความเชี่ยวชาญโรคนี้โดยตรง
วิธีที่ ๒. ต้องหัดบริหารทวารหนักให้เป็นวิธีทำง่ายๆ และได้ผลชะงัดคือ แต่ละครั้งที่เข้าห้องน้ำ ไม่ว่าถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ ถ่ายเสร็จแล้วอย่าเพิ่มรีบออกจากห้องน้ำ ให้นั่งลงที่โถส้วมแล้วขมิบทวารหนัก คราวละ ๓๐๐ ถึง ๔๐๐ ครั้ง เสร็จแล้วจึงค่อยไปทำธุระอย่างอื่น ปฏิบัติต่อเนื่องกันไปอย่างนี้ ไม่เกิน ๑ ถึง ๒ สัปดาห์ อาการท้องผูกและริดสีดวงทวารหนักจะหายไปพร้อมๆ กัน อย่างน่าอัศจรรย์
GANOflo และกาโนโกล อาหารเสริมคุณภาพนำเข้าจากนิวซีแลนด์ สกัดจาก ธรรมชาติ 100% มีสวนผสมของเห็ดหลินจือระดับคุณภาพ
- กาโนโฟล ตัวช่วยเรื่องการขับถ่าย ปรับสมดุลลำไส้ ด้วยการดีท็อกซ์ ขับ ดูด สารพิษ บำรุงลำไส้ ทำให้หน้าห้องกระชับ ครบสูตร ขับดูดบำรุง พุงยุบ
สนใจติดต่อได้ที่ 02 276 2300
LINE ID: @ganowellness (มี @ ด้วยนะคะ)
www.ganowellness.com
www.facebook.com/ganowellness/
แล้วปัญหา ท้องผูก ของคุณจะหมดไป
หมายเลขไอพี : 115.87.241.xxx
โพสเมื่อ : August 29, 2016 เวลา 16:48:13