ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
 

 

รวมลิ้งค์ เว็บไซต์ธรรมะ ที่น่าสนใจ
  THAIWARE Dharma | รายละเอียด บทความ บทสวด บทคาถา ธรรมะ
เลือกขนาดตัวอักษร ขนาดตัวอักษร :  ก   ก   ก   ก 

อนุทินถึงน้องกิ๊บ

 

    Share  
 

 

น้องกิ๊บเป็นสาววัยรุ่น หน้าตาน่ารักสมวัย วันนั้นเธอกลับจากงานศพของญาติ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ลงจากรถแล้ว เธอก็หมดสติล้มลง แม่น้องกิ๊บรีบนำส่งโรงพยาบาล ตั้งแต่นั้นมาเธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ทำให้แม่และญาติๆ ตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก ทุกคนพยายามช่วยเธอ สุดท้ายเธอย้ายไปอยู่ในห้องคนไข้หนักของโรงพยาบาล ระดับชั้นนำแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

ปู่ได้ทราบเรื่องนี้จากเพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งเป็นคนพาแม่น้องกิ๊บมาหาและขอร้องให้ช่วยลูกของเธอ ขณะนั้นปู่เพิ่งเริ่มต้นรักษาคน จึงยังไม่เข้าใจเรื่องวิบากกรรมมากนัก พอดีปู่ว่างจากงานจึงตอบตกลง แม่ของน้องกิ๊บพาปู่นั่งรถเข้ากรุงเทพฯ เข้าไปในตึกขนาดใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนั้น ภาพที่ปู่เห็นน้องกิ๊บ เป็นภาพของคนที่มีสภาพเหมือนคนใกล้ตาย เนื้อตัวเป็นสีม่วงๆ ช้ำๆ หายใจเป็นเฮือกๆ คงเป็นอาการโคม่าระยะสุดท้าย ปู่นึกเวทนาเธอมาก และหันมามองหน้าแม่ของเธอ ปู่ยิ่งสะท้อนใจหนักขึ้นไปอีกแววตาที่สงสารลูกจับใจ ห่วงหาอาทร สุดที่จะบรรยายได้

แม่น้องกิ๊บขออนุญาตทางโรงพยาบาลเพื่อขอให้ปู่เข้าไปรักษา พอปู่จะเริ่มทำการรักษา มีเสียงแว่วดังมาว่า ไม่ต้องมารักษาแล้ว มันไม่ตื่นกันง่ายๆ หรอก ถ้ามันจะตื่น มันคงตื่นไปนานแล้ว รอไปเถิดห้าปีสิบปีนะ เสียงสิ้นสุดลงแค่นั้น ปู่มองไม่เห็นคนพูด ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยผู้ป่วย ปู่จึงคะเนว่าแม่ของกิ๊บได้พาคนมารักษาหลายคณะแล้ว

ในภายหลังแม่กิ๊บได้เล่าให้ฟัง หมอบอกว่าหมดทางรักษาแล้ว ต้องรอปาฏิหารย์อย่างเดียวเท่านั้น เธอไม่รอโชคชะตา จึงพยายามเสาะแสวงหาคนที่จะมาช่วยลูกของเธอ มีทั้งเทพ เจ้าเข้าทรง ผู้วิเศษทั่วสารทิศ ซึ่งทำให้เธอพบความจริงอย่างหนึ่งว่า การให้มีคนมาช่วยนั้นต้องแลกด้วยเงินตรา เพราะเกือบทุกรายจะถามเธอว่าจะตอบแทนด้วยอะไร? ชีวิตลูกจะแลกกับอะไร? วิหารสักหลังได้หรือไม่? เธอนั่งน้ำตาร่วงร้องขอความเห็นใจ ตั้งแต่ลูกป่วยเกือบไม่ได้ทำงานอีกเลย เงินทองที่มีก็ร่อยหรอไปเกือบหมด ที่ยังอยู่ได้ก็ด้วยความสงสารของญาติพี่น้อง ที่ช่วยกันสมทบลงขันช่วยเหลือเธอ

ห้าชั่วโมงผ่านไป ตัวน้องกิ๊บดูสดใสขึ้น จากสีม่วงๆ ช้ำๆ กลับมีสีชมพูมีเลือดฝาดมากขึ้น การหายใจเป็นปกติ ปู่เห็นว่าเย็นมากแล้วจึงขอยุติ ขณะที่ทำการรักษาอยู่นั้นมีหมอซึ่งเป็นญาติของน้องกิ๊บมายืนดู สักครู่ก็เดินจากไปการรักษาของปู่ต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ประเจิดประเจ้อมากนัก ปู่ทำได้เพียงจับมือซ้ายของเธอไว้นานมาก ปู่ถ่ายพลังปราณของปู่ให้เธอ ในช่วงนั้นพ่อปู่ชีวกฯ ท่านยังไม่มาปรากฏ ปู่ต้องใช้พลังของตนเองเป็นหลัก ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นข้อต้องห้ามอย่างร้ายแรง และจะทำให้โชคลาภต่างๆ หายหมด งานออกแบบอาคารหลายหลังที่กำลังจะตกลงถูกยกเลิกไปหมด ปู่ว่างงานอยู่เกือบสองเดือน แต่ปู่ก็ไม่ได้เสียใจ ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยผู้คนนั้นมีมากกว่า จึงไม่กลัวแม้แต่ความตายและความจน อาจด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้พ่อปู่ชีวกฯ ท่านเห็นความตั้งใจจริงของปู่ จึงเมตตาลงมาช่วยเหลือและยินยอมให้ร่วมบุญกับท่าน

หลังจากวันนั้น ปู่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปรักษาน้องกิ๊บทุกวัน ผ่านไปห้าวันหมอให้ย้ายจากห้องคนไข้หนัก ไปห้องธรรมดา เพราะอาการต่างๆ ดีขึ้น หมอซึ่งเป็นญาติของน้องกิ๊บได้แวะมาเยี่ยม แกพูดกับญาติว่าเป็นไปได้อย่างไร! น่าแปลกใจจริง

ต่อมาได้ย้ายน้องกิ๊บไปห้องพิเศษ มีอยู่วันหนึ่งมีการรวมญาติของน้องกิ๊บ มากันมากจนเต็มห้อง ทุกคนมาดูปู่รักษา พวกเขาคุยกัน มีอยู่เรื่องหนึ่งที่พอจับความได้ว่าพวกเขากังวลว่า ปู่จะเรียกค่ารักษาเท่าไหร่? ทุกคนมองปู่ด้วยความกังวล ปู่รู้ความนัยจึงพูดเปรยๆ ขึ้นว่า

" เวลาเขาจะเรียกค่าจ้าง เขาคงไม่ทำจนสำเร็จแล้วมาเรียกร้องเงินภายหลัง คงไม่โง่ขนาดนั้น ผมทำงานนี้เพื่อเป็นทาน อาชีพของผมเป็นสถาปนิก ผมคงไม่ต้องการเงินของพวกคุณหรอก "

พอปู่พูดจบทุกคนพากันถอนหายใจ สายตาที่กังวลเปลี่ยนเป็นโล่งใจ นอกจากเรื่องนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เกิดความยุ่งยากคือหมอไม่อนุญาตให้น้องกิ๊บกลับบ้าน ต่อมาจึงรู้ความจริงว่า หมอต้องการผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ ค่าใช้จ่ายมากพอสมควร และจะกลายเป็นภาระที่ต้องดูแลเจ้าเครื่องนี้ต่อไป

ซึ่งในความเห็นของปู่ เด็กไม่มีปัญหาในเรื่องของ หัวใจ เลย พูดอย่างไรหมอก็ไม่ยอม ซ้ำพูดให้น่ากลัวไปใหญ่ ในที่สุดปู่แนะแม่ของกิ๊บว่าไปบอกหมอว่า ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็คงต้องทำตามที่หมอแนะนำ แต่ขอผ่อนชำระเป็นงวดๆ ได้หรือไม่? การพูดอย่างนี้เพื่อบอกหมอว่าเรายากจนไม่มีเงินหรอก ในที่สุดหมอพูดว่าอันที่จริงก็ยังไม่จำเป็นมากนัก แต่ควรทำนะ ถ้าอย่างนั้นรอดูอาการไปก่อน น้องกิ๊บจึงได้กลับบ้าน ขณะนั้นเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนกว่าแล้ว สุขภาพทั่วไปดีขึ้นมากจนเกือบปกติ

แต่เนื่องจากมีการช๊อกหลายครั้ง ทำให้สมองบางส่วนเสียหาย เป็นผลให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือพูดได้ ต้องมาสอนกันใหม่ สภาพของน้องกิ๊บตอนนั้นสดใส แก้มแดง ร่างกายผิวพรรณสวยงาม จนบางคนที่เคยไปเยี่ยมขณะทีอยู่ห้องฉุกเฉิน พอมาเยี่ยมอีกครั้งที่บ้านตกใจมาก แกบอกว่าถ้าไม่มีคนไปด้วยแกคงวิ่งหนีคิดว่าผีหลอก เพราะน้องกิ๊บตอนนี้ไม่เหมือนกับน้องกิ๊บ ที่อยู่ในห้องคนไข้หนักวันนั้น

เมื่อน้องกิ๊บกลับถึงบ้าน เขาจัดให้อยู่ในห้องชั้นล่าง เพื่อความสะดวกในการมาเยี่ยมเยียนของญาติและเพื่อนๆ ปู่ได้ตามไปรักษา บางครั้งปู่ไปถึงในห้อง มีแขกอยู่เต็มไปหมด ปู่ไม่สนใจรีบทำหน้าที่ของตัวเอง ตอนนั้นปู่ยังไม่มีฌาณของพ่อปู่ชีวกฯ การรักษาต้องจับเนื้อตัวน้องกิ๊บ ใช้มือกดไปตามจุดจักระของน้องกิ๊บ การทำอย่างนั้น ปู่ไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงว่าเป็นการทำหน้าที่ไปตามปกติ มีอยู่วันหนึ่ง น้าของน้องกิ๊บได้เรียกปู่ไปพบและพูดว่าให้เลิกรักษาได้แล้ว ต่อจากนี้ใม่ต้องมาอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะให้ตำรวจมาจับ ปู่ก็งงๆว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร? ปู่ทำอะไรผิดหรือ?

แกแจกแจงว่า ปู่จับเนื้อตัวของหลานแกต่อหน้าธารกำนัล เป็นการลวมลาม น่ารังเกียจมาก ปู่จึงโต้ตอบว่านั้นเป็นวิธีรักษาของผม ผมไม่มีเจตนาทำอย่างที่คุณคิด ถ้าเป็นอย่างนั้นเวลาที่ผมรักษา คุณอย่าให้ใครเข้ามาในห้องก็คงหมดปัญหา

แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายแกก็ไม่ยอม และแกถือสิทธิ์ที่เป็นคนอุปถัมภ์น้องกิ๊บ ปู่ต้องยอมรับการตัดสินใจของน้าน้องกิ๊บ แต่ยังทำใจไม่ได้ ปู่ยังแวะเวียนไปเยี่ยมอยู่หลายครั้ง ครั้นเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับหน้าบึ้งตึง ปู่จึงต้องยุติการไปเยี่ยมเธอ ต่อมาได้ทราบว่าน้องกิ๊บสุขภาพค่อยๆ ทรุดลง น้ำหนักลดและมีอาการข้างเคียงมากขึ้น แม่น้องกิ๊บทนดูไม่ได้ จึงแอบพามาให้ปู่รักษา โดยอ้างว่าไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล แต่การทิ้งไว้นานเกินไป พลังชีวิตไม่ต่อเนื่อง ทำให้ปู่ไม่สามารถช่วยเหลือได้เหมือนครั้งก่อน ทำได้เพียงพยุงเอาไว้ น้องกิ๊บดูสดชื่นขึ้น ต่อมาความแตก น้าของน้องกิ๊บจับได้ แต่ก็ไม่ได้ว่ากล่าวแต่อย่างไร คงปล่อยให้มารักษาต่อไป แต่ไม่เกิดประโยชน์อะไร โอกาสนั้นได้ผ่านไปแล้ว สุดท้าย ปู่ต้องเป็นฝ่ายขอยกเลิกการรักษา หลังจากนั้นอีกห้าปี ได้ข่าวว่า น้องกิ๊บได้จากไปแล้ว

เรื่องนี้ได้บอกความนัยไว้หลายอย่าง เป็นบทเรียนเรื่องแรกๆ ที่ปู่ได้เจอ เป็นเรื่องที่ประทับอยู่ในความทรงจำ จึงบันทึกไว้เป็นการระลึกถึงน้องกิ๊บ เป็นเรื่องราวที่เราได้เรียนรู้ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีคนอยู่หลายจำพวก ลางคนอ้างตัวเป็นผู้ทรงคุณธรรม คนของเทพ แต่ยังมีผลประโยชน์แอบแฝง เรียกร้องเงินทอง สิ่งของต่างๆ ปู่อยากขอร้องท่านทั้งหลายที่มีฤทธิ์ได้โปรดมีเมตตา อย่าได้ซ้ำเติมคนที่กำลังทุกข์ยากเลย บางคณะที่มาดูน่าเชื่อถือ มากันสามสี่คนช่วยกันนวดตีตามตัวของน้องกิ๊บ จนช้ำไปหมด คงหวังให้ฟื้นขึ้นมา บางรายหาผลประโยชน์จากเครื่องมือทางการแพทย์ หรือผลประโยชน์จากยาที่จ่ายให้คนไข้ ดูน่าเศร้าและน่ารังเกียจ

ส่วนตัวน้องกิ๊บคงมีกรรมร่วมอยู่กับแม่ จึงทำให้มีอายุสั้น ก่อให้เกิดเรื่องทุกข์สะเทือนใจ พ่อแม่ส่วนมากไม่เคยคิดว่าลูกจะตายก่อน ทุกคนหวังเห็นลูกเติบโตมีอนาคต มีความเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่หวังไว้อาจพังทลาย ด้วยกฎแห่งกรรม ไม่มีใครสามารถหนีกรรมได้ เรามีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นผู้กำหนดเส้นทางที่จะไป ดังนั้นถึงแม้ว่าเราจะต้องพบกับความทุกข์ ความสูญเสีย พบกับวิบากกรรม ทั้งจากอดีตและปัจจุบัน ถ้าเราอยู่อย่างมีสติ มีใจตั้งมั่น ยึดมั่นในความดี เราก็สามารถประคับประคองชีวิต ให้ผ่านวิกฤติไปได้ เราจึงควรหมั่นทำความดีและมีความไม่ประมาทเป็นที่ตั้ง ดังคำพระที่ว่า “ประมาโทมัจจุโนปะทัง” แปลว่า ความประมาท จะนำมัจจุราชมาเยือน หรือความประมาท นำมาซึ่งความตายนั่นเอง




THAIWARE Dharma | นำข้อมูลบทความออก !  นำข้อมูลออกพิมพ์ !

THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออก โดยการพิมพ์ (Print Article by Printable View)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ MS.Word (Export Article to MS.Word)    THAIWARE Dharma | นำข้อมูลออกสู่ ไฟล์เอกสาร PDF (Export Article to PDF Format Document)
 

THAIWARE Dharma | กลับสู่หน้าแรก ไทยแวร์ธรรมะ
 

 

 

 

  THAIWARE Dharma | ส่งความคิดเห็นจากทางบ้าน !
หัวข้อ เนื้อหา ข้อตกลง
  ความคิดเห็น* :

หมายเหตุ : กรอกรายละเอียดของบทความเข้าไป (ไม่รับ HTML Code) สามารถกด Enter ขึ้นบรรทัดใหม่ได้
  ห้ามโพสข้อความ !

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือส่งผลต่อ ความมั่นคงของประเทศ

  ที่ส่อไปทางลามก อนาจาร หรือผิดศีลธรรม

  ที่ถือเป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ ผิดกฎหมาย

  ที่เป็นความผิด เกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา

  ที่มีการพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์และราชวงศ์

  ที่ผิดต่อ พรบ. ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๑
  ชื่อ / อีเมล์* :

หมายเหตุ : "นาย สมชาย รักธรรม" หรือ "somchai.r@gmail.com"
  รหัสยืนยัน* :

 
ฉันยอมรับข้อตกลงที่กล่าวมา ภายในหน้านี้ ทั้งหมด